วันอังคารที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2562
ประวัติโรงเรียนโดยย่อ
โรงเรียนมาลาสวรรค์พิทยาเป็นโรงเรียนคาทอลิก สังกัดอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ ๑๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๕ โดยบาทหลวงแปร์แรง โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ลูกหลานคาทอลิกวัดนักบุญเปาโลกลับใจบ้านนา ได้มีการเรียนคำสอนและเรียนวิชาสามัญควบคู่กันไป ตลอดจนเพื่อจะได้มีการติดต่อสื่อสารและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับชุมชนที่ส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ จึงได้ดำเนินการจัดตั้งโรงเรียนขึ้นภายในบริเวณวัด มีซิสเตอร์เป้า น้ำทรัพย์ ซึ่งเป็นภคินีของคณะพระหฤทัยของพระเยซูเจ้าแห่งกรุงเทพฯ ดำรงตำแหน่งเจ้าของและผู้จัดการ นายบา ทรงสัตย์ ดำรงตำแหน่งครูใหญ่ เปิดทำการสอนวิชาสามัญตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ รับนักเรียนไปกลับแบบสหศึกษา ตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ถึงประถมศึกษาปีที่ ๓ มีจำนวนนักเรียน ๗๕ คน
ปีการศึกษา ๒๕๐๔ โรงเรียนได้รับการรับรองวิทยฐานะเทียบเท่าโรงเรียนรัฐบาล โดยมีซิสเตอร์สดับ พงศ์ศิริพัฒน์ ดำรงตำแหน่งครูใหญ่ มีจำนวนนักเรียน ๑๒๐ คน
ปีการศึกษา ๒๕๑๒ บาทหลวงวิศิษฎ์ หริพงศ์ ได้รื้ออาคารเรียนเนื่องจากชำรุดทรุดโทรม และได้จัดสร้างอาคารเรียนหลังใหม่เป็นตึก ๒ ชั้น มีจำนวน ๒๐ ห้องเรียน โดยตั้งชื่ออาคารว่า “เซนต์ปอล” จำนวนนักเรียน ๖๒๕ คน
ปีการศึกษา ๒๕๒๗ บาทหลวงไพริน เกิดสมุทร ได้จัดสร้างอาคารเรียนเพิ่มขึ้นอีก ๑ หลัง เป็นตึก ๒ ชั้น จำนวน ๘ ห้องเรียน เพื่อใช้สำหรับการเรียนการสอนให้กับนักเรียนในระดับก่อนประถมศึกษา มีชื่ออาคารว่า “วิกตอร์ลาเกร์” มีจำนวนนักเรียน ๗๖๓ คน
ปีการศึกษา ๒๕๓๗ บาทหลวงบัณฑิตย์ ประจงกิจ ได้จัดสร้างอาคารเรียนชั่วคราว ๑ หลัง จำนวน ๔ ห้องเรียน เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กชั้นเดียว ใช้สำหรับการเรียนการสอนนักเรียนในระดับชั้น ม.๑-๓ จำนวนนักเรียนในปีนี้ ๑,๓๖๒ คน
ปีการศึกษา ๒๕๓๘ บาทหลวงพจนารถ นิรมลทินวงศ์ ได้จัดสร้างอาคารเรียนชั่วคราวต่อจากอาคารเรียนชั่วคราวเดิมเพิ่มขึ้นอีกจำนวน ๕ ห้องเรียน จึงพัฒนาเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กชั้นเดียวต่อเชื่อมกันรวมเป็นจำนวน ๙ ห้องเรียน
ปีการศึกษา ๒๕๔๓ โรงเรียนได้รับการรับรองมาตรฐานการศึกษาจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน กระทรวงศึกษาธิการ มีระยะเวลา ๕ ปี และในปีเดียวกันนี้ บาทหลวงสุรชัย กิจสวัสดิ์ ผู้รับใบอนุญาต–ผู้จัดการ ได้เริ่มจัดสร้างอาคารเรียนขนาด ๕ ชั้น ๑ หลัง จำนวน ๒๘ ห้องเรียน และห้องประกอบการ ๒๒ ห้อง ซึ่งแล้วเสร็จใช้ทำการเรียนการสอนได้ในปีการศึกษา ๒๕๔๔ ตั้งชื่ออาคารว่า “เปาโล” ได้ทำพิธีเสกเปิดอาคารเรียน โดย ฯพณฯ พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู มุขนายกอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ เมื่อวันเสาร์ที่ ๒๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๓ ในปีนี้มีจำนวนนักเรียน ๑,๔๘๐ คน
ปีการศึกษา ๒๕๔๔ มีจำนวนนักเรียน ๑,๖๕๘ คน ในปีนี้โรงเรียนได้รับยกย่องเป็นสถานศึกษาดีเด่นของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ปีการศึกษา ๒๕๔๕ ได้เริ่มใช้หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๔๔ โดยเริ่มใช้ในชั้น ป.๑ของช่วงชั้นที่ ๑ ,ชั้น ป.๔ ของช่วงชั้นที่ ๒ และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ของช่วงชั้นที่ ๓ มีจำนวนนักเรียนทั้งสิ้น ๑,๖๘๕ คน
ปีการศึกษา ๒๕๔๗ เป็นปีแรกที่เริ่มสอนภาษาจีนให้กับนักเรียนตั้งแต่ชั้น ป.๑ – ม.๓ จำนวนนักเรียนในปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น ๑,๘๗๑ คน
ปีการศึกษา ๒๕๔๘ ได้ขยายหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานถึงช่วงชั้นที่ ๔ โดยเปิดการสอนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ ขึ้นเป็นปีแรก จำนวน ๒ ห้องเรียน แยกเป็นแผนการเรียนคณิต-วิทย์ และแผนการเรียนภาษา-สังคม มีจำนวนนักเรียนรวม ๑,๘๘๑ คน และได้รับการตรวจเยี่ยมประเมินคุณภาพการศึกษาภายนอกรอบแรก จากคณะกรรมการสำนักรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา(องค์กรมหาชน) โดยบริษัทการศึกษาก้าวหน้า จำกัด
ปีการศึกษา ๒๕๔๙ ได้ปรับปรุงฐานข้อมูลโรงเรียน ระบบการเงิน ข้อมูลบุคลากร งานทะเบียน และงานห้องสมุด ปรับปรุงห้องปฏิบัติการภาษา จัดทำห้องปฏิบัติการเคมีและชีววิทยา และติดตั้งอินเทอร์เน็ตระบบความเร็วสูง
ปีการศึกษา ๒๕๕๐ ได้รับการประเมินคุณภาพภายนอกสถานศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานรอบที่สอง จากคณะกรรมการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา(องค์กรมหาชน) โดยคณะผู้ประเมินสังกัดหน่วยประเมินเชิดชูกัลยาณมิตร ปีการศึกษานี้มีจำนวนนักเรียนทั้งสิ้น ๑,๙๒๐ คน
ปีการศึกษา ๒๕๕๑ โรงเรียนได้จัดสร้างสระว่ายน้ำเปาโลบริเวณหน้าอาคารเรียนพระเยซู หน้าอาคารอนุบาลเพื่อการพัฒนาศักยภาพของนักเรียนอนุบาล จัดซื้อคอมพิวเตอร์ใหม่ทดแทนเครื่องเดิมจำนวน ๕๐ เครื่อง มีการพัฒนาระบบอินเตอร์เน็ตเพื่อการสืบค้น ปีการศึกษานี้มีจำนวนนักเรียนทั้งสิ้น ๒,๐๐๐ คน
ปีการศึกษา ๒๕๕๒ โรงเรียนได้จัดสร้างอาคารเอนกประสงค์ขนาดใหญ่จำนวน ๑ หลัง ปีการศึกษานี้มีจำนวนนักเรียนทั้งสิ้น ๒,๐๖๕ คน
ปีการศึกษา ๒๕๕๓ โรงเรียนได้รับป้ายประกาศเกียรติคุณ “น้ำสะอาดดื่มได้ โรงอาหารมาตรฐาน อาหารสะอาด รสชาติอร่อยปลอดภัย” จากกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ปีการศึกษานี้มีจำนวนนักเรียนทั้งสิ้น ๒,๐๗๙ คน
ปีการศึกษา ๒๕๕๔ โรงเรียนได้รับเกียรติบัตรจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครนายก ตามโครงการโรงเรียนสะอาด บรรยากาศและสิ่งแวดล้อมดี ปี ๒๕๕๔ มีผลการประเมิน ดีเยี่ยม อันดับที่ ๑ ในปีการศึกษานี้มีจำนวนนักเรียน ๒,๐๙๖ คน
ปีการศึกษา ๒๕๕๖ ได้ปรับระบบโครงสร้างทางวิชาการให้มีความแข็งแกร่งโดยเพิ่มคาบเรียนแต่จะวันจาก ๖ คาบเรียนเป็น ๗ คาบเรียน เสริมหลักสูตรให้มีการเรียนการสอนสาระภาษาอังกฤษให้เข้มข้นขึ้น ได้ริเริ่มการเรียนการสอนที่มุ่งเน้นการพัฒนาภาษาอังกฤษอย่างเข้มข้นด้วยโปรแกรม Mini Intensive Program (MIP) ขึ้นเป็นครั้งแรก โดยเริ่มเปิดสอนในภาคเรียนที่ ๒ สำหรับนักเรียนระดับอนุบาล ๒-๓ ที่สนใจสมัครเข้าโครงการ ปีการศึกษานี้ ยังได้มีการเปลี่ยนเครื่องคอมพิวเตอร์ให้ทันสมัยเพื่อการเรียนของนักเรียนจำนวน ๕๐ เครื่อง เพิ่มคอมพิวเตอร์สำหรับนักเรียนอนุบาลและประถมศึกษาปีที่ ๑ ให้เพียงพอกับจำนวนนักเรียนในแต่ละห้อง นอกจากนั้น ในปีนี้ห้องสมุดของโรงเรียนยังได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับสองของจังหวัดนครนายกในโครงการส่งเสริมการอ่าน “อ่านเถิดเด็กไทย อ่านถวายเจ้าฟ้านักอ่าน” และ ได้รับรางวัลโล่ทองห้องสมุดดีเด่นของฝ่ายการศึกษาโรงเรียนของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
ปีการศึกษา ๒๕๕๗ โรงเรียนจัดสร้างสนามฟุตซอลขึ้น ที่บริเวณสนามด้านตะวันตกของ อาคารเปาโล ปรับพื้นสนามหน้าอาคารอนุบาลและจัดสร้างหลังคาเพื่อเป็นสถานที่ประกอบกิจกรรมอเนกประสงค์สำหรับนักเรียนอนุบาลและประถมศึกษาปีที่ ๑ ส่วนในด้านหลักสูตรและการจัดการเรียนการสอน ได้เปิดสอนเพื่อพัฒนาภาษาอังกฤษด้วยโครงการ MIP ต่อเนื่อง โดยในปีการศึกษานี้ เปิดสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาล ๒ ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ มีการสอนหลักสูตรจินตคณิตให้นักเรียนระดับประถมศึกษา ปลูกฝัง “จิตอาสา” ให้นักเรียนอย่างเป็นระบบ โดยให้นักเรียนได้มีโอกาสปฏิบัติกิจกรรมจิตอาสาทั้งในและนอกโรงเรียน
ปีการศึกษา ๒๕๕๘ ปรับปรุงเทปูนลานจอดรถครู ติดตั้งระบบน้ำดื่มแผนกปฐมวัยและประถม มัธยมศึกษา สร้างโรงยิมแผนกปฐมวัย นำระบบ Smart purse มาใช้ซื้ออาหารภายในโรงเรียน โดยเป็นบัตรนักเรียน โครงการ "สานฝันปั้นดาว" สำหรับพัฒนานักเรียน ม.1 ให้มีความเข้มข้นทางวิชาการ โดยประสานกับโรงเรียนกวดวิชา
ปีการศึกษา ๒๕๕๙ ปรับปรุงพัฒนาอาคารสถานที่ เช่น อาคารพักพนักงาน ๙ ห้อง ปรังปรุงอาคารชั่วคราว ห้องประกอบการเรียน (ห้องสุนทรียศิลป์) ห้องปฏิบัติการฝ่ายต่าง ๆ ห้องสมุดแผนกประถม - มัธยม เพิ่มห้องสมุดระดับมัธยมฯ ห้องพยาบาลแผนกประถม - มัธยมฯ ปรับปรุงห้องสมุด ห้องศูนย์สื่อ ห้องประชุมแผนกปฐมวัย จัดทำโครงการเศรษฐกิจพอเพียง สวน Young Smart Farmers เพื่อให้นักเรียนได้นำไปใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันได้
ปีการศึกษา ๒๕๖๐ โรงเรียนปรับปรุงและพัฒนาห้องคอมพิวเตอร์ สำหรับนักเรียน และติดตั้งจอโทรทัศน์ ๕๒ นิ้ว เพื่อใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในห้องเรียนทุกห้อง เปิดโปรแกรมห้องเรียน MEP ป.๑ - ป.๔ จัดการเรียนรู้ในวิชาภาษาอังกฤษ สัปดาห์ละ ๖ คาบ โดยครูต่างชาติ และวิชาวิทยาศาสตร์ - วิชาคณิตศาสตร์ มีการเรียนเป็นภาษาอังกฤษสัปดาห์ละ ๑ คาบ ส่วนโปรแกรมห้องเรียน IEP ระดับชั้น ป.๑ - ป.๖ จัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษสัปดาห์ละ ๖ คาบ โดยครูต่างชาติ จัดให้มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดทุกห้องเรียนและห้องประกอบการ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและบุคลากรของโรงเรียน
วันจันทร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2562
แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่องคำและชนิดของคำ ทั้ง ๗ ชนิด
ข้อสอบมีทั้งหมดจำนวน ๓๐ ข้อละ ๑ คะแนน เวลา
๖๐ นาที
คำชี้แจง:
ให้นักเรียนเลือก คำตอบที่ถูกที่สุดเพียงหนึ่งคำตอบ
๑. พสกนิกร
ร่วมกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติ "ปั่นเพื่อพ่อ Bike
for Dad" คำที่ขีดเส้นใต้เป็นคำนามชนิดใด
ก.
ลักษณนาม
ข.
อาการนาม
ค.
สามานยนาม
ง.
วิสามานยนาม
๒. การออกกำลังกายสม่ำเสมอและการรับประทานอาหารให้ครบห้าหมู่ในปริมาณที่พอเหมาะจะส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายเราคำที่ขีดเส้นใต้เป็นคำนามชนิดใด
ก. ลักษณนาม
ข.
อาการนาม
ค.
สามานยนาม
ง. วิสามานยนาม
๓.
ข้อใดทำหน้าที่สมุหนามได้ถูกต้อง
ก.
โขลง ช้างเดินที่ชายป่า
ข.
ผึ้ง ๑ ฝูง กำลังทำรัง
ค.
นกนางนวล บินโฉบเฉี่ยวบนท้องฟ้า
ง.
กรรมการ คณะนั้นกำลังตรวจบัญชี
๔. ข้อใดใช้ลักษณะนามไม่ถูกต้อง
ก.
วินัยมีปี่ 1 เลา
ข.
น้องมีตุ๊กตา 2 ตัว
ค.
พ่อจุดธูป 3 ดอก
ง.
แม่ซื้ออวนมา 4 ตัว
๕.คำใดในประโยคทำหน้าที่เชื่อมคำนามกับคำนาม
ก. พวกเราพยายามใกล้สำเร็จแล้ว
ข.
ฉันจะไปเยี่ยมเธอเพราะฉันคิดถึงเธอ
ค. โต๊ะในห้องเรียนมีทั้งหมดสามสิบเจ็ดตัว
ง. เขาชอบกินแกงเผ็ดแต่ฉันชอบกินแกงจืด
๖.
คำว่า “ เขา” ในข้อใดเป็นสรรพนามบุรุษที่ ๓
ก. นกเขาตัวนั้นขันเสียงใส
ข.
เราใช้มีดเขาควายคว้านมะพร้าวน้ำหอม
ค. ฉันจะพูดให้เขาใจอ่อนเอง เธอรอหน่อยนะ
ง.
ภูเขาลูกโน้นอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
๗.
ประโยคในข้อใดที่มีสรรพนามทำหน้าที่เหมือนกับประโยคกำหนดให้
“นักเรียนบ้างก็อ่านหนังสือ
บ้างก็ทำการบ้าน”
ก. พวกเขาวิ่งกันไปที่ไหน
ข.
ประชาชนต่างก็มาร่วมปั่นเพื่อแม่
ค. ใครๆก็บอกว่าเธอสวยที่สุดในห้อง
ง.
เขาให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
๘. "ใคร" ในข้อใดเป็นอนิยมสรรพนาม
ก. วันนี้เวรของใครทำความสะอาดห้อง
ข. ใคร ๆ ก็อยากสวยด้วยกันทั้งนั้น
ค. เพื่อนสนิทของเธอเป็นใคร
ง. ใครอยู่ในห้องน้ำชาย
ก. วันนี้เวรของใครทำความสะอาดห้อง
ข. ใคร ๆ ก็อยากสวยด้วยกันทั้งนั้น
ค. เพื่อนสนิทของเธอเป็นใคร
ง. ใครอยู่ในห้องน้ำชาย
๙. ข้อใด คือความหมายของ ประพันธสรรพนาม
ก. คำสรรพนามไม่ชี้เฉพาะ
ข. คำสรรพนาม ชี้เฉพาะ เจาะจง
ค. คำสรรพนาม เพื่อทำหน้าที่เชื่อมประโยค
ง. คำสรรพนามที่ใช้เพื่อแสดงการแบ่งพวก
.
๑๐. คำว่า "ขน" ในข้อใดทำหน้าที่เป็นกิริยาของประโยค
ก.อมรใช้ไม้ขนไก่ปัดฝุ่น
ข.บังอรมีขนตางอนงาม
ค.สุนัขขนขาวดูน่ารัก
ง.นภาใช้รถขนผักไปตลาด
๑๑.
ประโยคใดมีชนิดของคำกริยาแตกต่างจากประโยคอื่น
ก.
คุณยายสวดมนต์ก่อนนอน
ข.
คุณแม่รดน้ำต้นไม้ก่อนทำอาหาร
ค.
นักเรียนทบทวนหนังสือก่อนสอบ
ง.
คุณพ่อคาดเข็มขัดนิรภัยก่อนขับรถ
๑๒.ประโยคในข้อใดเป็นวิกตรรถกริยา
ก.
ฐิติมาเป็นประธานนักเรียน
ข.
ครูยืนอยู่ข้างสนามฟุตบอล
ค.
นักเรียนเพลิดเพลินกับการซ้อมกีฬา
ง.
เมื่อเข้าสู่ฤดูฝนเกษตรกรกำลังไถนา
๑๓. “ผู้ใหญ่เพลิดเพลินเล่นสาดน้ำในวันสงกรานต์” เป็นกริยาชนิดใด
ก. สกรรมกริยา
ข. อกรรมกริยา
ค. วิกตรรถกริยา
ง. กริยานุเคราะห์
๑๔.
ข้อใดมีคำวิเศษณ์บอกสถานที่
ก. เขาอ่านหนังสือเสียงดัง
ข.
รถไฟขบวนนั้นหยุดอยู่กับที่
ค.
เขาล่องเรือไปทางทิศใต้
ง.
พวกเราทุกคนต้องขยันเรียน
๑๕.
คำที่ขีดเส้นใต้ในข้อใดเป็นคำวิเศษณ์ขยายกริยา
ก. เขาวิ่งเร็ว
ข.
บุญมากสวมเสื้อเก่า
ค.
อารีคัดลายมือได้สวยมาก
ง.
กางเกงสีดำตากอยู่บนราวผ้า
๑๖. จากประโยค “ คุณแม่ตักบาตรทุกเช้า”
คำใดเป็นคำวิเศษณ์ และเป็นคำวิเศษณ์ชนิดใด
ก. คุณแม่ เป็นคำวิเศษณ์บอกลักษณะ
ข. ตักบาตร เป็นคำวิเศษณ์บอกสถานที่
ค. ทุก เป็นคำวิเศษณ์บอกปริมาณ
ง. เช้า เป็นคำวิเศษณ์บอกเวลา
๑๗. จากประโยค “เราทั้งหลายเป็นคนไทย”
คำใดเป็นคำวิเศษณ์ ทำหน้าที่ใดในประโยค
ก. เรา ขยายนาม
ข. เป็น ขยายกริยา
ค. คนไทย ขยายวิเศษณ์
ง. ทั้งหลาย ขยายสรรพนาม
๑๘.
คำใดในประโยคทำหน้าที่คำบุพบทขยายคำนาม
ก. นักเรียนอยู่ในห้อง
ข. ฉันจะอยู่ใกล้เธอ
ค. ปากกาของฉันอยู่ที่เขา
ง. เขาเก็บอาหารไว้สำหรับรับประทาน
๑๙.ข้อใดใช้คำบุพบทได้ถูกต้อง
ก. เขาอยู่เหนือ
ฉันอยู่ใต้
ข. ป้าอยู่ในร้าน ลุงอยู่นอกร้าน
ค. คุณพ่ออยู่ไกล คุณแม่อยู่ใกล้
ง. เขาให้รางวัล แก่คนที่แต่งกลอนได้ที่หนึ่ง
๒๐.
คำ “ของ” ในข้อใดเป็นคำบุพบท
ก. รังสินันเป็นนักกีฬาของโรงเรียน
ข. น้องวางของเกลื่อนกลาดห้อง
ค. ฉันซื้อของขวัญปีใหม่ให้เธอ
ง. หนังสือการ์ตูนอยู่ในห้องเก็บของ
๒๑.
ข้อใดใช้คำบุพบทไม่ถูกต้อง
ก. บ้านของฉันอยู่ใกล้โรงเรียน
ข. พ่อคือพ่อของแผ่นดิน
ค. ลูกศิษย์ปรึกษาครูประจำชั้น
ง. คุณปู่ออกไปเดินเล่นนอกบ้าน
๒๒.ข้อใดใช้คำสันธานเชื่อมประโยคที่เป็นเหตุเป็นผลกัน
ก. เพราะเขาขยันเรียนจึงสอบได้คะแนนดี
ข. เพราะอากาศร้อนฝนจึงตกในตอนกลางคืน
ค. เพราะฉันต้องการลดความอ้วนจึงไม่ทานข้าวเช้า
ง. เพราะน้องต้องการไปโรงเรียนกับพี่เขามีจักรยาน
๒๓.ข้อใดใช้คำสันธานไม่ถูกต้อง
ก. ดำเป็นตอตะโก
ข. เสียงดังราวกับเสียงระฆัง
ค. บริสุทธิ์เหมือนหยาดน้ำค้าง
ง. แห้งแล้งเหมือนทะเลทราย
๒๔.ข้อใดใช้คำสันธานเชื่อมประโยคที่ขัดแย้งกันได้ถูกต้อง
ก. ถึงเขาจะเป็นนักมวยฉันก็ไม่กลัวเขา
ข. เพราะเขาอยากมีเงินแต่เขาก็ต้องทำงาน
ค. ใบไม้ร่วงเพราะฉะนั้นสนามจึงสกปรก
ง. ถ้าเขามีความสุขฉันก็ยินดีกับเขาด้วย
๒๕.จงเติมคำเชื่อมลงในช่องว่างประโยคที่กำหนดให้ ข้อใดมีใจความขัดแย้งกัน
ก.
............เคนกลับถึงบ้านฝน............ตกทันที
ข. ปอไปห้องสมุด...........ต้อยไปร้านอาหาร
ค. .........ไฟฟ้าดับ ก้อย..........ไม่ได้ทำการบ้าน
ง. นภาขยันเรียนมาก .........สอบเข้าเรียนชั้น
ม.๑ ได้
๒๖.ข้อใดใช้คำอุทานได้ถูกต้อง
ก. อนิจจัง ! ทำไมสวยเหลือเกิน
ข. หื้อหือ ! เธอรีบมาทางนี้เร็วๆด้วยนะ
ค. ไชโย! ทีมฟุตบอลไทยทำไมไปไม่ถึงดวงดาว
ง. โอ๊ย! ทำไมเขาจึงได้รับความเจ็บปวดมากขนาดนั้น
๒๗.ข้อใดใช้คำอุทานเพื่อแสดงความรำพึง
รำพัน ได้ถูกต้อง
ก. โอ้ว่า !
รักหนอรักนี้หนักจิต บางคราวคิดว่าสนุกเป็นสุขี
ข. เฮ้ย !
รักหนอรักนี้หนักจิต บางคราวคิดว่าสนุกเป็นสุขี
ค. เอ๊ะ ! รักหนอรักนี้หนักจิต
บางคราวคิดว่าสนุกเป็นสุขี
ง. แหม
! รักหนอรักนี้หนักจิต
บางคราวคิดว่าสนุกเป็นสุขี
๒๘.ข้อใดใช้คำอุทานเสริมบทไม่ถูกต้อง
ก. ลูก
เต้า เล้าอ่อน
ข. ผัก หญ้า ปลายำ
ค. สิงห์ สา หน้าไม้
ง. ลด ลา วาศอก
๒๙.ข้อใดใช้คำอุทานบอกอาการได้ถูกต้อง
ก. พุทโธ่ ! เขาตายเสียแล้วหรือ ?
ข. สนุก นิ เราเศร้าสิ้น
สบหน้าหมั่นเกษม
ค. เด็ก เอย ทำไมจึงร้อง
ง. ฉันไม่รู้ ฉันไม่ชี้ อะไรเลย
๓๐. “วันหยุดนี้ครอบครัวของฉันจะไปพักผ่อน ........
พัทยา ............. ลงเรือไปเที่ยวเกาะด้วย”
ควรเติมคำใดจึงจะทำให้เป็นประโยคที่สมบูรณ์
ก. ณ
,
ที่
ข. ที่ , และ
ค. และ
,
ที่
ที่ ,
เพราะข้อสอบชุดนี้เป็นข้อสอบทั้งก่อนเรียน และ หลังเรียน
เฉลย
1.
ค 2. ข 3. ก 4. ง 5.
ค
6. ค 7. ข 8. ข 9. ค 10
ง
11. ก 12. ก 13. ข 14. ค 15. ก
16. ง 17. ง 18. ก 19. ข 20.
ก
21. ค 22. ก 23. ข 24. ก 25
ข
26. ง 27. ก 28. ค 29. ก 30. ข
ง.
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)